top of page

Wolfgang Amadeus Mozart

canvas-oil-Wolfgang-Amadeus-Mozart-Barbara-Krafft-1819.webp

           Wolfgang Amadeus Mozart (โวล์ฟกัง อมาเตอุส โมสาร์ท) เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ.1759 (พ.ศ.2295)

ที่เมืองซาลสเบอร์ก ออสเตรีย เป็นลูกชายของ Leopold Mozart (เลโอโปลด์ โมสาร์ท) นักดนตรีผู้มีชื่อเสียงของออสเตรีย เป็นนักแต่งเพลงและครูสอนดนตรี ซึ่งสามารถเล่นไวโอลินได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหัวหน้าวงดนตรีประจำสำนัก

ของอาร์ชบิชอพ ที่ซาล์สเบอร์ก แม่ชื่อ เฟรา อันนา โมสาร์ท เป็นแม่บ้าน โมสาร์ท  มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไป 5 คน เหลือแต่ มารีอันเนอ พี่สาวที่มีอายุมากกว่าเขา 4 ปี รวมตัวเขา เพียง 2 คนเท่านั้น ในวัยเด็กโมสาร์ทเป็นคนที่มีรูปร่างสง่า ใบหน้าสวย ริมฝีปากสวยงาม จมูกโด่ง แววตาอ่อนโยนเหมือนผู้หญิง กิริยามารยาทสงบเสงี่ยม ละมุนละม่อม และช่างคิดช่างฝัน
          เมื่ออายุ 5 ปี โมสาร์ทได้แต่งเพลง โดยการแต่งเติมเพลง Minuet ของพ่อที่ได้แต่งค้างไว้  ซึ่งมีความไพเราะยิ่งนัก  เมื่ออายุ 6 ปี  เขาได้รับของขวัญวันเกิดเป็นไวโอลินเล็ก ๆ อันหนึ่ง โมสาร์ทพยายามฝึกฝนด้วยตนเอง เพราะพ่อไม่ยอมสอน  หลังจากโมสาร์ทได้แสดงฝีมือการเล่นไวโอลีนร่วมวงกับพ่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พ่อของเขาทำการฝึกซ้อมไวโอลินให้เขากับมารีอันเนอ อย่างจริงจัง และแน่วแน่เพื่อปั้นลูกชายให้เป็นนักไวโอลินของโลกให้ได้

          เมื่อ  โมสาร์ท อายุได้ 6 ปี ได้เข้าเฝ้า พระนางมาเรีย เทเรซา ที่กรุงเวียนนา และด้วยอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีทำให้เขาได้รับสมญานาม จากจักรพรรดิ์ฟรังซิส ว่า “ผู้วิเศษน้อย”  ทำให้เขามีชื่อเสียงมากในยุโรป เมื่อ 7 ปี เขาแต่งเพลงไวโอลินโซนาตาเป็นเพลงแรก  และเมื่ออายุ 8 ปี ก็แต่งซิมโฟนีได้สำเร็จ โมสาร์ทได้เดินทางไปแสดงดนตรีที่อิตาลี และตกหลุมรัก หลงใหล คลั่งไคล้อิตาลีมาก  ถึงขั้นเปลี่ยนชื่อกลางให้เหมือนชาวอิตาเลียน  โดยจากเดิมชื่อ Gottlieb แปลว่า ผู้เป็นที่รักของพระเจ้า มาเป็น Amadeus โดยมีคำแปลว่าผู้เป็นที่รักของพระเจ้าเช่นเหมือนเดิม
         โมสาร์ท แต่งงานกับ คอนสตันซ์ เวเบอร์ น้องสาวของอลอยเซีย เวเบอร์  ที่เขาเคยตกหลุมรักมาก่อน  และได้เขียน อุปรากรขึ้นชื่อ
The Escape from Seraglio  โดยเอาชื่อภรรยามาเป็นนางเอก   จักรพรรดิ์โจเซป ชอบอุปรากรของโมสาร์ทมาก  จึงได้เขามาอยู่ในวงดนตรีของพระองค์    แต่ให้ค่าตอบแทนที่น้อยมาก

          งานด้านแต่งเพลงของโมสาร์ทเริ่มโดดเด่นขึ้น  หลังได้พบกับ Franz Joseph Haydn (ฟรันทซ์ โยเซ็ฟ ไฮเดิน)

นักคนตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเวียนนา และได้สอนเขาเขียนเพลง Quartet  และโมสาร์ท ได้แต่งเพลง String quartets หลายเพลง และไพเราะมาก ซึ่ง Haydn ก็ชื่นชมโมสาร์ทมากเช่นกัน
         โมสาร์ทแต่งงานมา 9 ปี ซึ่งเขามีความสุขบ้างพอควร มีลูกกับ คอนสตันซ์ เวเบอร์  รวมทั้งหมด 6 คน และได้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก  เพราะภรรยาใช้เงินเก่ง ไม่ค่อยใส่ใจการบ้านการเรือน  มีรายได้ไม่พอรายจ่ายทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย  ทำให้โมสาร์ทต้องทำงานหนัก

         โมสาร์ทมีผลงานมากกว่า 200 ชิ้น ถือว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการแต่งเพลงชั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
โมสาร์ทได้แต่งเพลง Requiem (เพลงเกี่ยวกับงานศพ) ให้แก่เคาน์ท์ลัวเซกก์ สำหรับเป็นที่ระลึกให้แก่ภรรยาที่ตายไปแล้ว และในเวลาต่อมาโมสาร์ทก็เสียชีวิต ด้วยโรคไทฟลอย์ ที่เวียนนา ในวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ.1791 ซึ่งเพลงที่เขาแต่งได้นำมาใช้ในงานศพของเขาเอง ด้วยวัยเพียง 35 ปีเท่านั้น

Jakob Ludwig Felix Mendelssohn Bartholdy

download.jfif

          Jakob Ludwig Felix Mendelssohn Bartholdy   (ยาค็อพ ลูทวิช เฟลิคส์ เม็นเดิลส์โซน บาร์ท็อลดี) 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 - 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2390 เกิดและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในนาม เฟลิกซ์เมนเดลโซห์น    เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมันนักเปียโนนักออร์แกนและผู้ควบคุมวงดนตรี

ยุคโรแมนติกยุคแรก องค์ประกอบ เมนเดลโซห์น รวมซิมโฟนี่ ,คอนแชโต , เปียโนและดนตรีผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดีของเขา ได้แก่ ดนตรีประกอบ 

A Midsummer Night's Dream , Italian Symphony , Scottish Symphony , The Oratorio Saint Paul , นักประพันธ์เอลิยาห์ , The Hebrides , Hark! The Herald Angels Sing ก็เป็นของเขาเช่นกัน Song Without Words ของ เมนเดลโซห์น เป็นผลงานเดี่ยวเปียโนที่โด่งดังที่สุดของเขา

 เฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น เป็นชาวยิว ในครอบครัวเขาถูกเลี้ยงดูโดยไม่นับถือศาสนาจนกระทั่งอายุ 7 ขวบเมื่อเขารับบัพติศมาในฐานะคริสเตียน เขาได้รับการยอมรับในช่วงแรก ๆ ว่าเป็นนักดนตรีอัจฉริยะ แต่พ่อแม่ของเขาก็ระมัดระวังและไม่พยายามใช้ประโยชน์จากความสามารถของเขา แฟนนี น้องสาวของเขาได้รับการศึกษาด้านดนตรีที่คล้ายคลึงกันและก็เป็นนักแต่งและนักเปียโนที่มีความสามารถในแบบของเธอเอง เพลงแรกของเธอบางเพลงได้รับการตีพิมพ์ภายใต้ชื่อพี่ชายของเธอ

      เมนเดลโซห์น ประสบความสำเร็จในช่วงแรก ๆ ในเยอรมนีและฟื้นความสนใจในดนตรีของ Johann Sebastian Bachโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

กับการแสดง St Matthew Passion ในปี 1829 เขาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการเดินทางไปทั่วยุโรปในฐานะนักแต่งเพลง

ผู้ควบคุมวงและศิลปินเดี่ยว  การเยือนอังกฤษสิบครั้งของเขาซึ่งเป็นช่วงที่ผลงานสำคัญหลายชิ้นของเขา ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ถือเป็นส่วนสำคัญในอาชีพของเขา อนุรักษ์นิยมหลักรสนิยมทางดนตรีของเขาทำให้เขาแตกต่างจากดนตรีมากขึ้นเช่น Franz Liszt , Richard Wagner , Charles-Valentin Alkan และ Hector Berlioz  และในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของเขาได้รับการประเมินอีกครั้ง และตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงยอดนิยมในยุคโรแมนติก

Franz Peter Schubert

download (1).jfif

       Franz Peter Schubert (ฟรันทซ์ เพเทอร์ ชูเบิร์ท) 

เกิดที่เมืองลิชเทินทาล (Lichtenthal) ใกล้กับกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อปี พ.ศ. 2340 (ค.ศ. 1797) บิดาของเขา ฟรันทซ์-เทโอดอร์ เป็นครูโรงเรียนมัธยม ได้สอนให้เขาเล่นไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรก ในขณะที่ อิกนาทซ์ (Ignaz) พี่ชายได้สอนเปียโนให้แก่เขา ระหว่างปี พ.ศ. 2351 ถึง พ.ศ. 2356 

(ค.ศ. 1808 - 1813) เขาได้เป็นนักร้องในวงประสานเสียงประจำวิหารหลวงแห่งกรุงเวียนนา และได้เข้าเรียนที่ค็อนวิคท์ (Konvikt โรงเรียนฝึกหัดนักร้องเพื่อวิหารและราชสำนัก) เขาจึงได้เป็นศิษย์ของอันโตนีโอ ซาลีเอรี ผู้อำนวยการวงดนตรีประจำราชสำนัก

        ระหว่างช่วงเวลาที่เขาศึกษาอยู่ที่นี่ เขาเริ่มประพันธ์เพลง โดยเริ่มจากบทเพลงสำหรับเปียโนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2353 (ค.ศ. 1810) ต่อมาก็แต่งเพลงสำหรับวง String quartets ที่ใช้เครื่องสายอย่างน้อยแปดชิ้น รวมถึงเพลงโหมโรง รวมทั้งบทเพลงประเภทอื่น ๆ

        ในปี พ.ศ. 2356 (ค.ศ. 1813) เขาได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก Wolfgang Amadeus Mozart ในการประพันธ์ซิมโฟนี และ 2 ปีต่อมาได้ประพันธ์อุปรากรเรื่องแรก เพลงสวดบทแรก และผลงานชิ้นเอกของเขาที่เป็นเพลงร้อง (Lied) ชื่อเพลง Marguerite au rouet จาก Gretchen am Spinnrade

       ไม่กี่ปีต่อมาที่ประเทศฮังการี เขาเป็นพ่อทูนหัวให้กับบุตรของเคานต์แห่งแอ็สแตร์ฮาซี ได้พบกับรักที่ไม่สมหวัง และกลับมาใช้ชีวิตที่กรุงเวียนนาอีกครั้ง ทั้งชีวิตของเขาได้อุทิศให้กับดนตรี การแต่งเพลง และการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง (กลุ่มสหายของSchubert) ในร้านทำขนมที่กรุงเวียนนา

       ในปี พ.ศ. 2365 (ค.ศ. 1822) ชูเบิร์ทป่วยด้วยโรคซิฟิลิส บางคนเชื่อว่าเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ สุขภาพของเขาทรุดโทรมลงเป็นอันมาก แต่เขาก็สามารถประพันธ์บทเพลงอันไพเราะออกมาได้จากการเฉียดตายและความทรมานจากความตาย (การเดินทางในฤดูหนาว Quartet no. 14 ชื่อ หญิงสาวกับความตาย) ชูเบิร์ทเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2371 (ค.ศ. 1828) เพื่อตอบสนองคำขอร้องสุดท้ายขอเขา ชูเบิร์ทได้ถูกฝังใกล้กับหลุมฝังศพของ Ludwig van Beethoven ผู้ที่ Schubert รู้สึกชื่นชอบมาตลอดชีวิต

© 2023 by Site Name. Proudly created with Wix.com

bottom of page